วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

ประเภทของพิษและงูอันตราย

ประเภทของพิษและงูอันตราย

ประเภทพิษงูมีดังนี้

  • Neurotoxins เป็นพิษที่ทำลายประสาท 
  • Hemorrhagins  เป็นพิษที่ทำลายผนังด้านในของหลอดเลือด 
  • Procoagulant enzymes  เป็นพิษที่ไปกระตุ้นระบบการกลายเป็นลิ่มของเลือด 
  • Myotoxin  เป็นพิษที่ทำลายกล้ามเนื้อ 
  • Cytotoxins  จะทำให้บริเวณที่ถูกกัดบวมเน่าได้ อาจเกิดตุ่มน้ำเหลือง 
  • Cardiotoxins  เป็นพิษที่ทำลาย cell membrane ของกล้ามเนื้อหัวใจ
  • Autopharmacological substances จะทำให้ผู้ที่ถูกงูกัดมีอาการปวดแผล ใจสั่น ปวดท้อง  เหงื่อออก ความดันเลือดต่ำ 
  • Nephrotoxin  เป็นพิษทำลายไตโดยตรง
  • Hemolysis  เป็นพิษทำให้เม็ดเลือดแดงแตก 
งูอันตราย

1.งูไทปันโพ้นทะเล (Inland Taipan)

 มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียโดยงูไทปันโพ้นทะเลนี้ได้ถูกจัดให้เป็นเพชฌฆาตที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดางูที่อยู่บนบก โดยพิษที่ปล่อยออกมาจากการกัดเพียงแค่ 1 ครั้ง มีปริมาณอยู่ที่ 110 มิลลิกรัม ซึ่งมากพอจะฆ่าชีวิตมนุษย์ได้ถึง 100 คน หรือหนูถึง 250,000 ตัว

2.งูไทปัน(taipan)

งูไทปันพบได้ในออสเตรเลีย พิษของมันรุนแรงพอที่จะฆ่าหนูตะเภาได้ถึง 12,000 ตัว ทั้งนี้ มีรายงานว่าก่อนที่จะมีการผลิตเซรุ่มแก้พิษงูชนิดนี้ ไม่มีเหยื่อรายใดที่ถูกงูไทปันกัดแล้วมีชีวิตรอดได้ โดยผู้ที่ถูกกัดสามารถเสียชีวิตได้ภายใน 1 ชั่วโมง 

3. งูแบล็กแมมบา (Black Mamba)

งูแบล็กแมมบามีลำตัวยาวเฉลี่ย 2.5-3.2 เมตร อาจใหญ่ได้ถึง 4.45-4.32 เมตร มันเป็นงูที่เลื้อยได้เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 4.32-5.4 เมตรต่อวินาที งูแบล็กแมมบามีการโจมตีได้มากถึง 12 ครั้ง พิษของมันจากการกัดเพียงแค่ครั้งเดียวก็ฆ่าผู้ใหญ่ได้ อาจปล่อยพิษออกมาถึง 100-120 มิลลิกรัมโดยเฉลี่ย อาจมากถึง 400 มิลลิกรัม

4. งูเสือ (Tiger Snake)

   พิษของงูเสือสามารถทำให้ผู้ที่ถูกกัดเสียชีวิตได้ภายใน 30 นาที ความรุนแรงของพิษงูทำให้ก่อนมีการพัฒนาเซรุ่ม เหยื่อที่ถูกงูเสือกัดมีอัตราเสียชีวิตอยู่ถึง 60-70% 

5. งูไวเปอร์ (Vipers)

  งูในวงศ์ไวเปอร์ (Viperidae) เป็นงูพิษที่พบได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก เว้นแต่ที่ แอนตาร์กติกา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ มาดากัสการ์ และฮาวาย สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและออกหากินในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังฝนตก  แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของงูพิษไวเปอร์นั้นก็คือพิษที่สามารถก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ โดยเริ่มจากการปวดในบริเวณที่ถูกกัด ตามมาด้วยอาการบวมในทันที เหยื่อมีเลือดออกโดยเฉพาะจากเหงือก ความดันโลหิตลดลงและอัตราการเต้นของหัวใจไม่ทำงาน

6.  งูเดธ เเอดเดอร์ (Death Adder)

 งูเดธ เเอดเดอร์ พบได้ในออสเตรเลียเเละนิวกินี มีลักษณะคล้ายงูไวเปอร์ ด้วยลักษณะร่างกายสั้นป้อม มันเป็นงูที่ล่างูด้วยกันเอง ในการกัดเเต่ละครั้ง งูเดธ เเอดเดอร์ จะปล่อยพิษออกมา 40-100 มิลลิกรัม ซึ่งประกอบด้วยสารพิษร้ายเเรง 0.4-0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม งูเดธ แอดเดอร์ นั้นเป็นที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เพราะพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทและอาจเสียชีวิตภายใน 6 ชั่วโมงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยเหยื่อจะแสดงอาการจากพิษงูหลังถูกกัดภายใน 24-28 ชั่วโมง ทั้งนี้ งูเดธ เเอดเดอร์ นับเป็นงูที่มีความเร็วในการฉกสูงที่สุดในโลก โดยสามารถฉกครั้งที่สองได้ในเวลา 0.13 วินาที
7.งูทะเล (Sea Snake)

 งูทะเล นับได้ว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลก โดยพิษของงูทะเลเพียงไม่กี่มิลลิกรัมก็มีฤทธิ์มากพอที่จะสังหารมนุษย์ได้ถึง 100 คนแล้ว การกัด 1 ใน 4 ครั้งมักจะมีพิษ  งูทะเลเคลื่อนไหวช้า  งูทะเลสามารถพบได้ทั่วน่านน้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย สำหรับพิษของงูทะเลนั้นมีความรุนแรงต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของงูทะเล โดย Dubois' seasnake นับเป็นงูทะเลที่มีพิษร้ายมากที่สุด 
8.งูสีน้ำตาลตะวันออก (Eastern Brown Snake)

 งูสีน้ำตาลตะวันออกสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว มีนิสัยดุร้าย และมักจะชอบไล่ตามเหยื่อและมีการโจมตีครั้งแล้วครั้งแล่า แม้แต่งูสีน้ำตาลตะวันออกที่มีอายุน้อยก็สามารถฆ่าคนได้ พิษของมันมีผลทั้งต่อระบบประสาท พบได้มากในย่านที่อยู่อาศัยของออสเตรเลีย 

9.งูเห่าฟิลิปปินส์ (Philippine Cobra/Northern Philippine Cobra)
 งูเห่าฟิลิปปินส์ มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดางูเห่าด้วยกัน  ด้วยพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทนี้จะส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของระบบทางเดินหายใจ และเป็นพิษต่อระบบประสาท เหยื่อที่ถูกงูเห่าฟิลิปปินส์กัดอาจประสบภาวะระบบหายใจเป็นอัมพาต และเสียชีวิตได้ภายใน 30 นาที 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น